หน้าเว็บ

การเตรียมตัวสอบ HSK

หลายคนที่เคยเรียนภาษาจีนมาสักระยะหนึ่ง  ก็คงอยากทดสอบความรู้ความสามารถด้านภาษาจีนของตนเองว่าอยู่ในระดับใด  ตัวหลีเองก็เคยกังวลเหมือนกันเพราะจากที่เคยได้ฟังคนอื่นๆ บอกมาว่าการสอบนั้นยาก  ก็เลยได้แต่ผัดวันประกันพรุ่งไม่ได้สอบซะที
แต่เมื่อเรียนไปได้นานพอสมควรก็อยากรู้เหมือนกันว่าแท้จริงแล้วเราจะทำได้มากน้อยขนาดไหน  ตอนตัดสินใจสมัครสอบแล้วก็ยังเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย  เลยไปหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับการสอบ HSK มาดู  โดยควรเลือกแบบที่มีซีดีประกอบการฟังด้วย  เพราะจะทำให้เรารู้ว่าเราฟังออกมากน้อยแค่ไหน 
จากนั้นก็ลองมาฟังแล้วทำข้อสอบดู  ฟังก็ไม่ออก  ไวยากรณ์ก็อ่อน  อ่านก็แย่  เติมคำก็ไม่ได้  เหตุเพราะศัพท์ที่เรารู้นั้น  แม้จะได้ในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อสอบเลย  ก็เลยดูเหมือนว่าข้อสอบนั้นยากไปสำหรับเรา  ก็เลยต้องฟังสองสามรอบถึงพอเข้าใจได้  แล้วก็ลองหาคำศัพท์เกี่ยวกับเรื่องที่อ่านดูก็พอรู้เรื่องขึ้นมาบ้าง
ส่วนการเติมคำนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากที่สุดสำหรับเราเลย  เพราะบางครั้งถึงแม้จะรู้ว่าควรเติมอะไร  แต่ถ้าเขียนไม่ได้ก็จบกัน  อดได้คะแนนไปเลย
ฉะนั้นก็เลยอยากฝากให้คนที่จะสอบ HSK เตรียมตัวกันเยอะๆ  ถ้าอยากให้คะแนนออกมาดี  แล้วถ้ายิ่งอยากได้ระดับสูง  ก็ต้องทำให้คะแนนทุกส่วนสัมพันธ์กัน  คือคะแนนที่ได้ในแต่ละส่วนต้องออกมาพอๆ  กันด้วยถึงจะได้ระดับออกมาดี  ไม่ใช่แค่ว่าได้คะแนนมากอย่างเดียว  เพราะคะแนนบางส่วนที่ได้น้อยก็อาจฉุดให้เราอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเกณฑ์ได้
ขอสรุปเลยล่ะกันนะค่ะว่าควรเตรียมตัวในการสอบ HSK อย่างไรบ้าง  เผื่อจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังจะสอบ
ต้องฝึกฟังมากๆ  ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี  เพราะจะทำให้เราฟังรู้เรื่องมากขึ้น  แถมได้คำศัพท์เพิ่มเติมอีกด้วย  ยิ่งฟังเยอะยิ่งได้เยอะค่ะ  เพราะเราไม่รู้ว่าข้อสอบจะออกอะไรบ้าง  แต่ก็พอหาแนวข้อสอบเก่าๆ มาลองฟังดูได้
ต้องเรียนรู้วิธีการใช้ไวยากรณ์ว่าใช้อย่างไรบ้าง  ควรวางในตำแหน่งใด  เพราะในบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องรู้คำศัพท์หมดทุกคำ  แต่เรารู้ว่าควรวางในตำแหน่งใด  เราก็สามารถทำข้อสอบได้ค่ะ
ในเรื่องของการอ่าน  ก็ต้องหัดอ่านให้เยอะๆ  เพื่อเก็บคำศัพท์ไว้ในคลังสมองของเรา  ยิ่งเยอะก็ยิ่งดีอีกเช่นกัน  เพราะจะทำให้เราอ่านรู้เรื่อง  สามารถจับใจความได้  แต่โดยส่วนตัวแล้วเวลาทำข้อสอบในส่วนนี้จะอ่านคำถามก่อนว่าข้อสอบถามอะไร  แล้วจึงไปหาคำตอบในเรื่องที่อ่าน  เพราะจะช่วยประหยัดเวลาได้  โดยเราไม่ต้องอ่านเนื้อเรื่องทั้งหมดก็ได้
ส่วนเรื่องการเติมคำนั้น  โดยส่วนตัวคิดว่าส่วนนี้แหละที่ยากที่สุดเลย  เพราะไม่มีอะไรมาให้เราเลือก  บางครั้งจึงต้องอาศัยการเดา  แถมยังต้องให้เราเขียนอีก  บางครั้งรู้คำตอบก็ไม่รู้เขียนยังไง   แต่ตอนสอบก็ลองหาจากข้อสอบดูเพราะบางครั้งก็มีตัวที่เราต้องการเขียนอยู่เหมือนกัน
ก่อนเข้าห้องสอบก็ควรเตรียมการให้พร้อมเช่นกันนะค่ะ  เพราะอาจเกิดการตื่นเต้นได้  ตอนที่หลีสอบนั้นสอบที่จีน  แต่คิดว่าน่าจะคล้ายๆ กัน  คือ  ต้องเตรียมดินสอสองบี  ยางลบ ใบสมัครสอบที่ระบุเลขประจำตัวผู้สอบ  (ถ้าสอบในจีนก็ต้องเตรียมพาสปอร์ตไว้ด้วยค่ะ  เพราะบางทีเค้าอาจขอตรวจ) 
เวลาสอบเราต้องทำข้อสอบในแต่ละส่วนอย่างรวดเร็วมาก  เพราะเมื่อเวลาในส่วนใดหมดลงแล้วก็ไม่สามารถย้อนกลับมาทำได้  เวลาฟังเราต้องมีสมาธิ  พอฟังจบก็ต้องรีบตอบทันที  ถ้าเราฟังไม่ทันก็รีบเดาในข้อนั้นๆ เลย  อย่ามัวแต่จดจ่ออยู่แค่ข้อนั้น  เพราะจะทำให้เสียสมาธิในการฟังคำถามในข้อต่อไป
ในส่วนของไวยากรณ์  การอ่าน  และเติมคำ  ก็ต้องทำอย่างด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋าเลยจริงๆ  เพราะเวลาที่ให้สำหรับเราแล้วรู้สึกว่าน้อยมาก  ทำไม่ทันเลย  โดยเฉพาะในส่วนของการอ่าน  เพราะบางเรื่องก็ยาวจริงๆ 
สิ่งที่อยากจะบอกกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ  ก็มีเท่านี้แหละค่ะ  เพราะเราก็เป็นแค่เพียงคนหนึ่งที่เคยสอบมาก่อนก็เท่านั้น  เลยอยากนำมาเล่าให้ฟัง  เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครๆ ได้บ้าง  แม้เพียงน้อยนิดเราก็รู้สึกดีใจแล้ว
สุดท้ายก็ขอให้ผู้ที่กำลังจะสอบ  หรือได้สอบไปแล้วก็ตาม  ได้คะแนนเยอะๆ  ระดับสูงๆ  ตามที่ใจปรารถนากันทุกคนเลยนะค่ะ