หน้าเว็บ

第二十四课 = 我想学太极拳บทที่ 24 ฉันอยากเรียนไท้เก็ก

第二十四课 = 我想学太极拳บทที่ 24 ฉันอยากเรียนไท้เก็ก article


           

生词   shēngcí คำศัพท์

1.      huì          (ฮุ่ย)            1.(ทำเชิงทักษะอะไร) เป็น , ....ได้
          2. จะ .....(แสดงความเป็นไปได้ที่จะเป็นจริง)

ตัวอย่าง       我会说汉语。

wǒ huì shuō hànyǔ.
หว่อ ฮุ่ย ซัว ฮั่นอวี่
ฉันพูดภาษาจีนเป็น / ฉันพูดภาษาจีนได้

没有钱你会爱我吗?

méiyǒu qián nǐ huì ài wǒ ma?
เหมย โหย่ว เฉียน หนี่ ฮุ่ย อ้าย หว่อ มา?
ไม่มีเงินเธอจะรักฉันไหม

2.                 (ต่า)            1. ตี,ทุบ,เคาะ      2. ชก, ต่อย ,
3. โทร...(กด)โทร...      4. รำ(มวยจีน,ไท้เก็ก)

ตัวอย่าง       这儿有人会打鼓吗?

zhèr yǒu rén huì dǎ gǔ ma?
เจ้อร์ โหย่ว เหยิน ฮุ่ย ต๋า กู่ มา?
ที่นี้มีใครตีกลองเป็นบ้าง
有人yǒu rén  (โหย่ว เหยิน) จะแปลว่า มีใคร.. จะไม่แปลว่า มีคน

我相信他不会打人。

wǒ xiāngxìn tā bú huì dǎ rén.
หว่อ เซียงสิ้น ทา ปู๋ ฮุ่ย ต่า เหยิน
ฉันเชื่อว่าเขา(ชก)ต่อยคนไม่เป็น

谁给我打电话?

shuí gěi wǒ dǎ diàn huà?
สุย เก๋ย หวอ ต๋า เตี้ยน ฮว่า?
ใครโทรศัพท์มาหาฉัน

3.   太极拳    tài jí quán (ไท้ จี๋ เฉวียน)     มวยจีนไท้เก็ก, ไท้เก็ก

ตัวอย่าง       我喜欢 打太极

wǒ xǐhuān dǎ tài jí quán.
หวอ สี่ฮวาน ต่า ไท้ จี๋ เฉวียน
ฉันชอบรำมวยจีนไท้เก็ก

你会打太极拳吗

nǐ huì dǎ tài jí quán ma?
หนี่ ฮุ่ย ต่า ไท้ จี๋ เฉวียน มา?
เธอรำมวยจีนไท้เก็กเป็นไหม

4.   听说    tīngshuō       (ทิง ซัว)     ได้ยินมาว่า

ตัวอย่าง       听说你是中国人,是真的吗?

tīngshuō nǐ shì Zhōngguó rén, shì zhēn de ma?
ทิง ซัว หนี่ ซื่อ จงกั๋ว เหยิน, ซื่อ เจิน เตอ มา?
ได้ยินมาว่าเธอเป็นคนจีน เป็นเรื่อง(ความ)จริงหรอ


5.            xià     (เซี่ยะ)         1. ลง    2. ถัดไป, (สัปดาห์, เดือน)หน้า

ตัวอย่าง       他下来了吗?

tā xià lái le ma?
ทา เซี่ยะ หลาย เลอ มา?
เขาลงมาแล้วหรือยัง

下星期我要去英国读书。

xià xīngqī wǒ yào qù Yīngguó dúshū.
เซี่ยะ ซิงชี หว่อ เหย้า ชวี่ อิงกั๋ว ตู๋ ซู
สัปดาห์หน้าฉันจะไปประเทศอังกฤษเรียนหนังสือ

6.   报名      bàomíng     (เป้าหมิง)               สมัคร, ลงชื่อ

ตัวอย่าง       我想学太极拳,现在可以报名吗?

wǒ xiǎng xué tàijíquán, xiànzài kěyǐ bàomíng ma?
หวอ เสี่ยง เสวีย ไท้จี๋เฉวียน, เสี้ยนไจ้ เขออี่ เป้าหมิง มา?
ฉันอยากเรียนมวยไท้เก็ก ตอนนี้สมัครได้ไหม

7.   开始      kāishǐ                   (คายสื่อ)     เริ่ม

ตัวอย่าง       什么时候开始上课

shénme shíhòu kāishǐ shàngkè?
เสินเมอ สือโฮ่ว คายสื่อ ซ่างเค่อ?
เริ่มเรียนเมื่อไหร่

8.            néng           (เหนิง)         ได้, สามารถ(ที่จะกระทำ)....ได้

ตัวอย่าง       你能帮我吗

nǐ néng bāng wǒ ma?
หนี่ เหนิง ปาง หว่อ มา?
เธอ(สามารถ)ช่วยฉันได้ไหม

9.            zài               (จ้าย)          อีก(ที)

ตัวอย่าง       你再帮我看看。

nǐ zài bāng wǒ kànkàn.
หนี่ จ้าย ปาง หว่อ คั่น คั่น
เธอช่วยฉันดูอีกที

我再打电话问问。

wǒ zài dǎ diàn huà wènwèn.
หว่อ จ้าย ต่า เตี้ยน ฮว่า เวิ่น เวิ่น.
ฉันโทรศัพท์ถามดูอีกที


10.          biàn            (เปี้ยน)         ครั้ง(รอบ)

ตัวอย่าง       您能不能再说一遍?

nín néng bù néng zài shuō yí biàn?
หนิน เหนิง ปู้ เหนิง จ้าย ซัว อี๋ เปี้ยน?
คุณพูดอีกครั้ง(รอบ)ได้ไหม

11.          dǒng           (ต่ง)            เข้าใจ

ตัวอย่าง       你不懂我,我不怪你

nǐ bù dǒng wǒ, wǒ bú guài nǐ.
หนี่ ปู้ ต๋ง หว่อ, หว่อ ปู๋ ไกว้ หนี่.
เธอไม่เข้าใจฉัน ฉันไม่ว่าเธอ

12.    舒服            shūfu          (ซู ฟุ)          สบาย

ตัวอย่าง       我今天有点儿不舒服

wǒ jīntiān yǒu diǎnr bù shūfu.
หว่อ จินเทียน โหยว เตี่ยนร์ ปู้ ซู ฟุ
วันนี้ฉันไม่สบายนิดหน่อย

13.    意思            yìsi              (อี้ สึ)           1. ความหมาย, หมายถึง
2. สนุก, น่าสนใจ

ตัวอย่าง       我不懂“一三五”是什么意思。

wǒ bù dǒng “yī sān wǔ” shì shénme yìsi.
หว่อ ปู้ ต่ง “อี ซาน อู่” ซื่อ เสินเมอ อี้ สึ.
ฉันไม่เข้าใจว่า “135” หมายถึงอะไร (ความหมายคืออะไร)

这是什么意思?

zhè shì shénme yìsi?
เจ้อ ซื่อ เสิน เมอ อี้ สึ?
นี้มันหมายความว่ายังไง(ภาษาพูด)

很有意思的游戏。
hěn yǒu yìsi de yóuxì.
เหิน โหย่ว อี้ สึ เตอ โหยว ซี่
เกมที่น่าสนใจมาก, เกมที่น่าสนุก

14.                           (ชื่อ)            ครั้ง

ตัวอย่าง       第一次世界大

dì yī cì shìjiè dà zhàn.
ตี้ อี ชื่อ ซื่อเจี้ยะ ต้า จ้าน
สงครามโลกครั้งที่ 1

ความแตกต่างระหว่างคำว่า “” กับคำว่า “
  2 คำนี้เป็นคำลักษณะนาม ถ้าแปลเป็นไทย จะแปลว่า “ครั้ง” เหมือนกัน จุดต่างอยู่ที่ว่า
  แปลว่า ครั้ง (กรณีที่เป็นจำนวนรอบ บางครั้งแปลว่า รอบ ดูตามตัวอย่างข้อ 10.)
แปลว่า ครั้ง (บอกจำนวนครั้งในการเกิดขึ้นของเรื่องราวต่าง ๆ ดูตามตัวอย่างข้อ 14  )

15.    小时            xiǎoshí        (เสี่ยวสือ)               ชั่วโมง

ตัวอย่าง       我们四点到五点上课,一次一个小时。

wǒmen sì diǎn dào wǔ dǎin shàngkè, yí cì yí gè xiǎoshí.
หว่อเมิน ซื่อเตี่ยน เต้า อู๋ เตี่ยน ซ่างเค่อ , อี๋ ชื่อ อี๋ เก้อ เสี่ยว สือ
พวกเราเข้าเรียน 4โมงถึง 5 โมง ครั้งนึงหนึ่งชั่วโมง

16.    请假            qǐngjià        (ฉิ่งเจี้ยะ)     ลาหยุด

ตัวอย่าง       为什么今天你请假呢?

wèi shénme jīntiān nǐ qǐngjià ne?
เว่ย เสินเมอ จินเทียน หนี ฉิ่งเจี้ยะ เนอ?
ทำไมวันนี้เธอลาหยุดหล่ะ

玛丽让我给她请个假。

Mǎlì ràng wǒ gěi tā qǐng gè jià.
หม่าลี่ ย่าง หวอ เก่ย ทา ฉิ่ง เก้อ เจี้ยะ
มาลีให้ฉันลาหยุดให้เขา

17.    头疼            tóuténg      (โถวเถิง)     ปวดศีรษะ, ปวดหัว
      tóu              (โถว)            ศีรษะ, หัว
      téng             (เถิง)            ปวด

ตัวอย่าง       三个情人真让我头疼。

sān gè qíngrén zhēn ràng wǒ tóuténg.
ซาน เก้อ ฉิงเหยิน เจิน ย่าง หว่อ โถวเถิง
รักสามเศร้าทำให้ฉันปวดหัวจริง ๆ

18.    发烧            fāshāo        (ฟาซาว)     เป็นไข้, เป็นไข้ตัวร้อน

ตัวอย่าง       发烧了不可以吃雪糕。

fāshāo le bù kěyǐ chī xuěgāo.
                   ฟาซาว เลอ ปู้ เขออี่ ชือ เสวี่ยเกา
เป็นไข้แล้วกินไอศครีมไม่ได้
                  
ความหมายเดียวกันกับ 冰淇淋 bīng qí lín (ปิง ฉี หลิน) แปลว่า ไอศครีม

19.    可能            kěnéng       (เข่อเหนิง)     อาจจะ , บางทีอาจ, บางที...อาจจะ

ตัวอย่าง       他可能不知道你是谁。

tā kěnéng bù zhīdào nǐ shì shuí.
                   ทา เข่อเหนิง ปู้ จือเต้า หนี่ ซื่อ สุย
เขาอาจจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร

20.    咳嗽  ké sou         (เขอโส่ว)       ไอ

ตัวอย่าง       咳嗽不止应该吃什么药

késou bù zhǐ yīnggāi chī shénme yào?
                   เขอโส่ว ปู้ จื่อ อิงกาย ชือ เสินเมอ เหย้า?
ไอไม่หยุด ควรกินยาอะไร

21.    感冒  gǎnmào      (กั่นเม่า)       หวัด

22.          le                (เลอ)            แล้ว

ตัวอย่าง       她今天有点儿不舒服 头疼 发烧,咳嗽,可能感冒了

tā jīntiān yǒu diǎnr bù shūfu, tóuténg, fāshāo, késou, kěnéng gǎnmào le.
                   ทา จินเทียน โหยว เตี่ยนร์ ปู้ ซู ฟุ, โถวเถิง, ฟาซาว, เขอโส่ว, เข่อเหนิง
                   กั่นเม่า เลอ.
วันนี้เขาไม่สบายนิดหน่อย ปวดหัว เป็นไข้ตัวร้อน ไอ บางที่อาจเป็นหวัดแล้ว

23.    看病  kànbìng               (คั่นปิ้ง)                 หาหมอ
      bìng                     (ปิ้ง)                       ป่วย

ตัวอย่าง       我要去医院看病。

wǒ yào qù yīyuàn kànbìng.
                   หว่อ เหย้า ชวี่ อี เอวี้ยน คั่นปิ้ง
   ฉันจะไปโรงพยาบาลหาหมอ


一、课文  kèwén   บทเรียน



()、我想学太极拳

  玛丽  :你会打太极拳吗?
  nǐ huì dǎ tàijíquán  ma?
หนี่ ฮุ่ย ต่า ไท้ จี๋ เฉวียน มา?
เธอรำมวยจีนไท้เก็กเป็นไหม

罗兰  :不会。你呢?
bú huì. nǐ ne?
ปู๋ ฮุ่ย. หนี่ เนอ?
ไม่เป็น แล้วเธอหล่ะ

   玛丽: 我也不会。你想不想学?
  wǒ yě bú huì. nǐ xiǎng bù xiǎng xué?
หวอ เหย่ ปู๋ ฮุ่ย . หนี เสี่ยง ปู้ เสี่ยง เสวีย?
ฉันก็ไม่เป็นเหมือนกัน เธออยากเรียนไหม

罗兰  :想学。
xiǎng xué.
เสี่ยง เสวีย
            อยากเรียน

   玛丽  :我也想学。听说体育老师下星期教太极拳,我们去报名吧。
  wǒ yě xiǎng xué. tīngshuō tǐyù lǎoshī xià xīngqī jiāo tàijíquán, wǒmen
  qù bàomíng ba.
หวอ เย๋ เสี่ยง เสวีย. ทิงซัว ถี่ อวี่ เหล่าซือ เซี่ยะ ซิงชี เจียว ไท้จี๋เฉวียน ,หว่อเมิน
ชวี่ เป้า หมิง ปะ.
ฉันก็อยากเรียนเหมือนกัน ได้ยินมาว่าสัปดาห์หน้าอาจารย์พละสอนมวยจีนไท้เก็ก
พวกเราไปสมัครกันเถอะ

罗兰  : 好。
hǎo.
ห่าว
            ได้ (โอเค)





()、你能不能再说一遍

  玛丽:  老师,我们想学太极拳,现在可以报名吗?
  lǎoshī, wǒmen xiǎng xué tàijíquán, xiànzài kěyǐ bàomíng ma?
เหล่าซือ, หว่อเมิน เสี่ยง เสวีย ไท้จี๋เฉวียน, เสี้ยนจ้าย เขออี่ เป้าหมิง มา?
    อาจารย์ค่ะ พวกเราอยากเรียนมวยจีนไท้เก็ก สมัครเรียนตอนนี้ได้ไหมค่ะ

老师  :可以。
kě yǐ.
เขอ อี่
            ได้

   玛丽  :什么时候开始上课?
  shénme shíhòu kāishǐ shàngkè?
เสินเมอ สือโฮ่ว คายสื่อ ซ่างเค่อ ?
เริ่มเรียนเมื่อไหร่ค่ะ

老师  :下星期一。
xià xīngqī yī.
เซี่ยะ ซิงชี อี
            วันจันทร์หน้า

   玛丽  :每天下午都有课吗?
  měitiān xià wǔ dōu yǒu kè ma?
เหม่ยเทียน เซี่ยะ อู่ โตว โหย่ว เค่อ มา?
ทุกวันตอนบ่ายมีเรียนรึเปล่าค่ะ , (มีเรียนทุกวันตอนบ่ายรึเปล่าค่ะ)

老师  :不,只一三五下午。
bù, zhǐ yī sān wǔ xià wǔ.
ปู้, จื่อ อี ซาน อู่ เซี่ยะ อู่
            ไม่ แค่ช่วงบ่ายของสัปดาห์ที่ 135

   玛丽  :对不起,您能不能再说一遍?我不懂 “一三五”是什么意思。
  duì bù qi, nín néng bù néng zài shuō yí biàn? wǒ bù dǒng “yī sān wǔ”
  shì shénme yìsi.
ตุ้ย ปู้ ฉิ, หนิน เหนิง ปู้ เหนิง จ้าย ซัว อี๋ เปี้ยน? หว่อ ปู้ ต่ง “อี ซาน อู่” ซื่อ เสิน
เมอ อี้ สึ.
           ขอโทษค่ะ อาจารย์(ท่าน)พูดอีกครั้งได้ค่ะ หนูไม่เข้าใจว่า “135” แปลว่าอะไร

老师  :就是星期一、星期三、星期五。
jiù shì xīngqī yī, xīngqī sān, xīngqī wǔ.
           จิ้ว ซื่อ ซิงชี อี, ซิงชี ซาน , ซิงชี อู่
            ก็คือ วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์

    玛丽:从几点到几点上课?
  cóng jǐ diǎn dào jǐ diǎn shàng kè?
ฉง จี๋ เตี่ยน เต้า จี๋ เตี่ยน ซ่าง เค่อ?
           เข้าเรียนตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมงค่ะ

老师 : 四点半到五点半。一次一个小时。
sì diǎn bàn dào wǔ diǎn bàn. yí cì yí gè xiǎo shí.
           ซื่อ เตี่ยน ปั้น เต้า อู๋ เตี่ยน ปั้น. อี๋ ชื่อ อี๋ เก้อ เสี่ยว สือ
            สี่โมงครึ่ง ถึงห้าโมงครึ่ง. ครั้งนึงหนึ่งชั่วโมง

   (星期一下午…..วันจันทร์ตอนบ่าย

老师 : 玛丽!….玛丽怎么没来?
Mǎ lì! ….Mǎ lì zěnme méi lái.
           หม่าลี่ ...หม่าลี่ เจิ่นเมอ เหมย หลาย.
            แมร์รี่...แมร์รี่ ทำไมไม่มา

罗兰 : 老师,玛丽让我给她请个假。她今天有点儿不舒服,头疼,发烧,
          嗽,可能感冒了。她要去医院看病,不能来上课
lǎoshī, Mǎlì ràng wǒ gěi tā qǐng gè jià. tā jīntiān yǒu diǎnr bù shūfu, tóuténg, fāshāo, késou, kěnéng gǎnmào le. tā yào qù yīyuàn kàn bìng,
bù néng lái shàng kè.
           เหล่าซือ, หม่าลี่ ย่าง หวอ เก่ย ทา ฉิ่ง เก้อ เจี่ยะ. ทา จินเทียน โหยวเตี่ยนร์ ปู้ ซู
           ฟุ, โถวเถิง, ฟาซาว, เขอโส่ว, เข่อ เหนิง กั่นเม่า เลอ. ทา เหย้า ชวี่ อี เอวี้ยน คั่น
           ปิ้ง, ปู้ เหนิง หลาย ซ่างเค่อ.
            อาจารย์ครับ แมร์รี่ให้ผมลาให้เขา วันนี้เขารู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ปวดหัว เป็นไข้
            ตัวร้อน ไอ อาจจะเป็นหวัด เขาจะไปโรงพยาบาลหาหมอ ใม่สามารถมาเข้า
            เรียนได้




三、注释  zhùshì อรรถาธิบาย

(一)您能不能说一遍?
เป็น คำวิเศษณ์ ในภาษาไทยจะหมายถึง “อีก” ใช้วางข้างหน้าคำกิริยาเพื่อทำหน้าที่ขยายกิริยา แสดงถึงการซ้ำ ๆ หรือต่อเนื่องกันของการกระทำ โดยยังไม่ได้ดำเนินการหรือปฏิบัติให้เป็นจริง เช่น

(1)  说一遍, 好吗?  nín zài shuō yíbiàn ,hǎo ma?. คุณพูดอีกสักครั้ง ได้ไหม?

(2)  明天我来。míngtiān wǒ zài lái.  พรุ่งนี้ฉัน(จะ)มาอีก

(二)几点几点上课?

โครงสร้าง …..….. ในประโยคจะทำหน้าที่เป็นคำขยายกิริยา แปลเป็นภาษาไทยจะหมายถึง “ตั้งแต่...ถึง....” จะแสดงถึงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของระยะเวลา

(1)  我们上午八点十一点上课。
wǒmen shàngwǔ cóng bā diǎn dào shí yī diǎn shàng kè.
ตอนเช้าพวกเราเข้าเรียนตั้งแต่ 8โมง ถึง 11โมง

(2)  七月十号八月三十一号放假。
cóng qī yuè shí hào dào bā yuè sān shí yī hào fàngjià.
          ปิดเทอม(หยุดงาน,หยุด)ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฏาคม ถึง วันที่ 31 สิงหาคม


四、     语法  yǔfǎ ไวยากรณ์

(一)      能愿动词  คำกิริยาช่วย

คำกิริยาช่วย แสดงถึงความสามารถ, สิ่งที่ร้องขอ, สิ่งที่คาดหวังและความน่าจะเป็น เป็นต้น อาทิ 会、要、想、能、可以  เป็นต้น คำกิริยาช่วยจะวางไว้ข้างหน้าคำกิริยา
กรณีปฏิเสธให้ใช้ “ 
 รูป แบบคำถามเชิงถูกผิดในประโยคที่มีคำกิริยาช่วย เป็นการเน้นรูปแบบการยืนยันและรูปแบบการปฏิเสธของคำกิริยาช่วย ไม่ใช่เป็นคำกิริยา คำกิริยาช่วยไม่สามารถนำมาใช้เป็นคำซ้ำคำได้  หลังคำกิริยาช่วยก็จะไม่ใช้ ปิดท้ายเช่นกัน

ข้างล่างนี้จะขอแนะนำวิธีใช้คำกิริยาช่วย โดยจะยกตัวอย่างคำกิริยาช่วยดังต่อไปนี้

1.        huì       (ฮุ่ย)            1.(ทำเชิงทักษะอะไร) เป็น , ....ได้
2. จะ .....(แสดงความเป็นไปได้ที่จะเป็นจริง)
         
แสดงถึงความสามารถในการทำบางสิ่งบางอย่าง กรณีที่ปฏิเสธให้ใช้
不会 + คำกิริยา + นาม”

(1)        她会说汉语。tā huì shuō hànyǔ. เค้าพูดภาษาจีนได้/เค้าพูดภาษาจีนเป็น

(2)        A : 你会不会打太极拳?(ห้ามพูดว่า你会打不打太极拳?)
                         nǐ huì bú huì dǎ tài jí quán?
     เธอรำมวยจีนไท้เก็กเป็นไหม(ได้ไหม)

B : 我不会打太极拳。
      wǒ bú huì dǎ tài jíquán.
     ฉันรำมวยจีนไท้เก็กไม่เป็น

2.        xiǎng   (เสี่ยง)         อยากจะ        

(1)         很多外国学生想来中国留学。
hěn duō wài guó xuésheng xiǎng lái Zhōngguó liú xué.
นักเรียนต่างชาติจำนวนมากอยากจะมาเรียนที่ประเทศจีน

(2)         你想不想学太极拳?
nǐ xiǎng bù xiǎng xué tài jí quán?
เธออยากจะเรียนไท้เก็กหรือไม่

          ห้ามพูดว่า   你想学不学太极拳?

3.        yào      (เหย้า)         จะ.......
แสดงถึงการเรียกร้องในบางสิ่งบางอย่าง  กรณีที่ปฏิเสธให้ใช้
“不想” หรือ “不愿意” จะไม่พูดว่า “不要”

(1)     A:  今天下午你想不想去商店?
      jīntiān xiàwǔ nǐ xiǎng bù xiǎng qù shāng diàn?
     วันนี้ตอนบ่ายเธออยากจะไปร้านค้าไหม

B:  我要学太极拳,不想去商店。
      wǒ yào xué tài jí quán, bù xiǎng qù shāngdiàn.
      ฉันจะเรียนไท้เก็ก, ไม่อยากไปร้านค้า

ห้ามพูดว่า   我要学太极拳,不要去商店。

คำว่า “不要” หรือ “别” แสดงถึงการห้ามปรามหรือเตือน แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “อย่า”

(2)     请大家不要说话。(หรือ สามารถพูดว่า请大家别说话。)
qǐng dàjiā bú yào shuōhuà. (qǐng dàjiā bié shuō huà.)
ขอความกรุณาทุกท่านอย่าพูดคุยกัน (อย่าส่งเสียง)

4.    /可以    néng/kěyǐ      (เหนิง/เขออี่)  สามารถ , ได้

แสดงถึงความสามารถหรือเงื่อนไขในการทำบางสิ่งบางอย่าง กรณีปฏิเสธให้ใช้
“不能” เช่น

(1)         她不能说汉语。
tā bù néng shuō hànyǔ.
          เค้าไม่สามารถพูดภาษาจีนได้ (พูดแล้วอาจจะโดนฆ่าอะไรประมาณอารมณ์นั้นอ่ะค่ะ)

(2)         你可以用英语说。
nǐ kěyǐ yòng yīngyǔ shuō.
          เธอสามารถใช้ภาษาอังกฤษพูดได้ (อารมณ์อนุญาติให้ใช้ภาษาอังกฤษได้)

แสดงถึงการยินยอมด้วยเหตุผลหรืออนุญาติตามสภาพแวดล้อมนั้น ๆ เช่น

(3)         A: 这儿可以抽烟吗?
    zhèr kěyǐ chōuyān ma?
             ที่นี้สามารถสูบบุหรี่ได้ไหม

          B: 对不起,这儿不能抽烟。
     duì bù qi, zhèr bù néng chōu yān.
              ขอโทษ ทีนี้ไม่สามารถสูบบุหรี่ได้

(4)         A: 下午你能不能跟我一起去?
    xiàwǔ nǐ néng bù néng gēn wǒ yì qǐ qù?
              ตอนบ่ายเธอไปด้วยกันกับฉันได้ไหม

B: 对不起,我有事,不能跟你一起去。
    xiàwǔ nǐ néng bù néng gēn wǒ yì qǐ qù?
             ขอโทษน่ะ ฉันมีธุระ ไม่สามารถไปด้วยกันกับเธอได้

ห้ามพูดว่า   对不起,我有事,不会跟你一起去。

(5)         玛丽感冒了, 不能来上课。
Mǎ lì gǎnmào le, bù néng lái shàng kè.
          แมร์รี่เป็นหวัด ไม่สามารถมาเข้าเรียนได้

ห้ามพูดว่า   玛丽感冒了, 不会来上课。

ข้อควรสังเกต  会、想、要 ยังคงเป็นคำกิริยา

หาก ทำหน้าที่เป็นคำกิริยา จะแสดงถึงการมีความชำนาญเทคนิคในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “เป็น..” เช่น

(6)         她会英语,不会法语。
tā huì yīngyǔ, bú huì fǎyǔ.
          เค้าเป็นภาษาอังกฤษ ไม่เป็นภาษาฝรั่งเศส

(7)         她会电脑。
tā huì diànnǎo.
          เค้าเป็นคอมพิวเตอร์

หาก ทำหน้าที่เป็นคำกิริยา แสดงถึงการใช้ความคิด พิจารณา คิดถึง เช่น

(8)         你们想想这个问题怎么回答。
nǐmen xiǎngxiǎng zhè gè wènyí zěnme huí dá.
          พวกเธอคิด ๆ ดูว่าปัญหานี้จะตอบอย่างไร

(9)         我有点儿想家。
wǒ yǒu diǎnr xiǎng jiā.
          ฉันคิดถึงบ้านนิดหน่อย

หาก ทำหน้าที่เป็นคำกิริยา แสดงถึง หวังว่าจะได้รับ ณ ที่นี้ แปลเป็นไทยได้ว่า “ต้องการ” เช่น

(10)     A: 你要什么?
     nǐ yào shénme?
              เธอต้องการอะไร

          B: 我要一斤苹果。
     wǒ yào yì jīn píngguǒ.
              ฉันต้องการแอปเปิ้ลครึ่งกิโล

(11)     A: 你要点儿什么?
     nǐ yào diǎn shénme?
              คุณต้องการสั่ง(อาหาร/เครื่องดื่ม)อะไร

          B: 我要一杯咖啡。
     wǒ yào yì bēi kāfēi.
              ฉันต้องการกาแฟ 1 ถ้วย


(二)   询问原因  สอบถามถึงสาเหตุ

怎么 + โครงสร้างปฏิเสธคำกิริยา(不、没) จะแสดงถึงการสอบถามถึงสาเหตุ โดยแปลเป็นภาษาไทยว่า “ทำไม” เช่น

(1)        A: 玛丽怎么没来?
                       Mǎlì zěnme méi lái?
                       แมร์รี่ทำไมไม่มา

                    B: 老师,她今天有点儿不舒服,要去医院,不能来上课。
                       lǎoshi, tā jīntiān yǒu dian3r bù shūfu ,yào qù yī yuàn, bù néng
                       lái shàngkè.
                       อาจารย์ วันนี้เค้าไม่สบายนิดหน่อย ต้องไปโรงพยาบาล ไม่สามารถมา
                       เข้าเรียนได้

(2)        A: 昨天你怎么没去学太极拳?
                       zuótiān nǐ zěnme méi qù xué tài jí quán?
                       เมื่อวานทำไมเธอไม่ไปเรียนไท้เก็ก

B: 昨天我有事。
                       zuótiān wǒ yǒu shì.
                       เมื่อวานฉันมีธุระ

(3)        A: 你怎么不喝啤酒?
                       nǐ zěnme bù hē pí jiǔ?
                       ทำไมเธอไม่ดื่มเบียร์

B: 我不喜欢喝啤酒。
                       wǒ bù xǐhuān hē píjiǔ.
                       ฉันไม่ชอบดื่มเบียร์

练习Liànxíแบบฝึกหัด

3)选词天空(ดูเฉลยได้ที่มุมเฉลยแบบฝึกหัดภาษาจีนพื้นฐาน)
         เลือกคำศัพท์เติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

A.                                                   可以             意思            

(1)我不______说法语,只会说一点儿英语。
(2)玛丽______学太极拳。
(3)他感冒了,今天下午不_____来。
(4)我很______学唱京剧。
(5)我现在还不________看中文报。
(6)老师,我妈妈今天来中国,我_______请假去接她。
(7)这个词是什么_____
(8)_______用用你的车吗?

B:                                               

(9)今天下午你______来吗?
(10)             老师,玛丽不舒服,今天她不_____来上课。
(11)             我不_______学太极拳。
(12)             他不想学法语,_____学英语。
(13)             你一分钟_____写多少汉字?
(14)             他喝酒了,不_____开车,你开吧。
(15)             这儿不____停车。
(16)             今天晚上我______去看电影。

4)完成会话(ส่งการบ้านพี่จิ๋วผ่านทางอีเมลหรือจดหมายน่ะค่ะ)
         จงเติมบทสนทนาให้สมบูรณ์

1.        A : 你会电脑吗?
B :________。你呢?
A :________。你想不想学?
B :________
A :我们一起学,好吗?
B :__________

2.        A :_________________________
B :不能。
A :_________________________
B :前边儿有停车场,那儿可以停车。

3.        A :_________________________
B :我不会做中国菜。_____?
A :我也不会。

4.        A :_________________________
B :今天我不想去,我们明天去吧。


5 改错句
จงแก้ไขประโยคที่ผิดให้ถูกต้อง
         (ดูเฉลยได้ที่มุมเฉลยแบบฝึกหัดภาษาจีนพื้นฐาน)

(1)你想买不买词典?

____________________________

(2)我去图书馆要看书。

____________________________


(3)晚上她能去跟我一起。

____________________________


(4)这件大衣太贵了,我不可以买。

____________________________


(5)她头疼,发烧,不会来上课。

____________________________


(6)你能去不去旅行?

____________________________


8ฝึกอ่านและแปลจากบทความต่อไปนี้
        (ดูเฉลยได้ที่มุมเฉลยแบบฝึกหัดภาษาจีนพื้นฐาน)

(1)     我不会打太极拳,很想学,玛丽也不会,她也想学。听说体育老师下星期教太极拳,我们就去报名。
老师说从下星期一开始上课。我问老师是不是每天下午都上课。他说不是每天下午,只一三五下午。我不懂“一三五”是什么意思。
老师说,一三五就是星期一、星期三、星期五。
今天下午我们有太极拳课,玛丽有点儿不舒服,发烧,头疼,可能感冒了,她要去医院看病,让我给她请假。上课的时候,老师问玛丽怎么没来,我告诉老师,她病了,今天不能来上课。

(2)  一天,  我问麦克会不会开车,他说当然会。我说,我朋友有一辆车,我可以借来,星期天我们开他的车去玩儿怎么样。麦克说,不行,我在中国不能开车。我问他:“为什么?”他说,没有开车的护照。我说,那不叫护照,叫驾照。他说:“对,是驾照。我常常错了。”我说:“要说   ̒ 常常错 ̕  ;不能说  ̒ 常常错了 ̕  ̒ 常常 ̕    后边不能用   ̒ ̕  。”他说:“是吗? 我还没学这个语法呢。”
补充生词คำศัพท์เสริม
护照             hùzhào                 (ฮู่จ้าว)            พาสปอร์ต
驾照             jiàzhào                 (เจี่ยะจ้าว)      ใบขับขี่

อ้างอิงจาก
·         汉语教程 第一册(上)HANYU JIAOCHENG,杨寄洲主编
·         http://www.nipic.com/show/3/24/7033028f8f6d8da5.html